วันอาทิตย์ที่ 27 มกราคม พ.ศ. 2556

ดอกแก้ว



ชื่อวิทยาศาสตร์:  Murraya paniculata (L.) Jack.
ชื่อวงศ์:  RUTACEAE
ชื่อสามัญ:  Orang Jessamine, China Box Tree, Andaman Satinwood, Chinese Box-wood
ชื่อพื้นเมือง:  แก้ว, แก้วขาว (ภาคกลาง), แก้วขี้ไก่ (ยะลา), แก้วพริก, ตะไหลแก้ว (ภาคเหนือ)
ลักษณะทั่วไป:
    ต้น  ไม้พุ่มหรือไม้ต้นขนาดเล็ก สูงได้ถึง 10 ม. เรือนยอดเป็นพุ่มกลมทึบ สีเขียวเข้ม เปลือกต้น สีขาว
เทา แตกเป็นร่องตามยาว
    ใบ  ประกอบแบบขนนกปลายคี่ เรียงสลับ มีใบย่อย 5-9 ใบ เรียงสลับกันจากเล็กไปหาใหญ่ สีเขียวเข้มเป็นมัน ใบย่อยที่ปลายก้านใบรูปไข่ รูปรี หรือรูปไข่กลับ ปลายแหลม โคนแหลมหรือสอบ ขอบเป็นคลื่นหรือหยักมนตื้นๆ โคนใบเบี้ยวเล็กน้อย ใบมีต่อมน้ำมัน
    ดอก  ช่อดอกสั้น ออกตามง่ามใบ ดอกสีขาว กลิ่นหอม   กลีบเลี้ยง 5 กลีบ   กลีบเลี้ยง ขนาดเล็ก ปลายมน กลีบดอกรูปขอบขนานแกมรูปไข่กลับ ยาวประมาณ1.2 ซม. เรียงซ้อนเหลื่อม ฐานรองดอกรูปวงแหวน เกสรเพศผู้ 10 อัน ยาวไม่เท่ากัน ยาวประมาณกึ่งหนึ่งของกลีบดอก ก้านเกสรเพศผู้แบน รังไข่ติดเหนือวงกลีบ ก้านเกสรเพศเมียหนา ยาวประมาณ 0.7 ซม. ยอดเกสรรูปโล่ห์ ร่วงง่าย ดอกบานเต็มที่กว้าง 2-2.5 เซนติเมตร
    ฝัก/ผล  รูปรีหรือรูปไข่ กว้าง 5-8 มม. ยาวประมาณ 1 ซม. ผลแก่สีแดงอมส้ม ต่อมน้ำมันเห็นได้ชัด
    เมล็ด  รูปไข่ มีขนหนาและเหนียวหุ้มโดยรอบเมล็ด

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น